ขุนช่างเคี่ยน
ทุก ๆ ปีในช่วงปลายเดือนธันวาคม "ต้นนางพญาเสือโคร่ง" (Prunus cerasoides D.Don) หรือ "ซากุระดอย" จะออกดอกบานสะพรั่ง ริมสองข้างทางเข้าสู่ "ขุนช่างเคี่ยน" หรือ "สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน" ทำให้ถนนกลายเป็นสายสีชมพูหวานแหววชวนให้เคลิบเคลิ้ม นั่นแน่! เชื่อว่าหลายคนคงไม่คุ้นหูกับคำว่า "ขุนช่างเคี่ยน" ขุนช่างเคี่ยน
ขุนช่างเคี่ยน
ซึ่งจริง ๆ แล้ว "ขุนช่างเคี่ยน" อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่เลย เอาเป็นว่าวันนี้กระปุกดอทคอม จะพานักเดินทางทั้งหลาย ไปสัมผัสกับความงามที่ธรรมชาติรังสรรค์ให้กับมนุษย์ตัวเล็ก ๆ อย่างเรา ๆ ได้เพลินตาเพลินใจ ณ ขุนช่างเคี่ยน กัน...ใครพร้อมตามเราเข้ามาเลย
ขุนช่างเคี่ยน หรือ สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน ตั้งอยู่ ณ หมู่บ้านขุนช่างเคี่ยน ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,200 เมตร อยู่ทางทิศเหนือของยอด ดอยปุย ห่างจาก พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ประมาณ 8 กิโลเมตร ตามเส้นทางสายเชียงใหม่-พระธาตุดอยสุเทพ ซึ่ง ขุนช่างเคี่ยน เป็นหนึ่งในสถานีเกษตรฯ ของคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่วิจัยเกี่ยวกับไม้ผลเมืองหนาว และเมล็ดพันธุ์กาแฟ เพื่อศึกษาความสามารถในการมีชีวิตรอดหลังจากปลูกใหม่ จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่
ขุนช่างเคี่ยน
แต่นอกจาก เมล็ดพันธุ์กาแฟ และ ผลไม้เมืองหนาว แล้ว "ขุนช่างเคี่ยน" ยังมีชื่อเสียงให้เหล่านักเดินทาง เดินทางไปสัมผัสอีกอย่างหนึ่ง นั่นก็คือ "ต้นนางพญาเสือโคร่ง" ที่ออกดอกบานสะพรั่งอลังการตระกาลตา ตลอดสองข้างทางถนนสายเล็ก ๆ แคบ ๆ ที่มุ่งตรงไปสู่ "สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน"
โดยในทุก ๆ ปีของฤดูหนาว ช่วงประมาณเดือนธันวาคมถึงเดือนมกราคม ต้นนางพญาเสือโคร่ง จะออกดอกอวดความงามมองเห็นแต่สีชมพู ทั่วบริเวณ สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน ซึ่งจุดที่ ต้นนางพญาเสือโคร่ง ขึ้นอยู่หนาแน่นที่สุด และเห็นเป็นกลุ่มเป็นดงสวยที่สุด คือตามเชิงดอย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขึ้นอยู่ที่ความหนาวเย็นด้วย และที่สำคัญแต่ละปี ดอกพญาเสือโคร่ง จะออกดอกไม่พร้อมกัน ทางที่ดีควรจะสอบถามกับทางเจ้าหน้าที่ให้แน่นอนก่อน
ขุนช่างเคี่ยน
ขุนช่างเคี่ยน
สำหรับใครที่ติดใจอยากจะขอค้างคืนอยู่ชื่นชมกับความงามของ "ดอกพญาเสือโคร่ง" ที่ ขุนช่างเคี่ยน ก็มีบ้านพักไว้คอยบริการ 3 หลัง สามารถพักอาศัยได้เป็นกลุ่มเล็ก ๆ ไม่เกิน 15 คน ภายในเป็นห้องกว้างสำหรับพักรวม มี 2 ชั้น ชั้นบนสามารถจุคนได้ประมาณ 4-6 คน ส่วนชั้นล่างจุได้ประมาณ 8-12 คน มีที่นอน หมอนและผ้าห่ม ห้องน้ำ-สุขา อยู่ภายใน มีห้องครัวสำหรับจัดเตรียมอาหารขนาดเล็ก พร้อมเตาแก๊ และอุปกรณ์หุงต้มที่จำเป็น หรือใครอยากกางเต็นท์ที่นี่ก็มีจุดกางเต็นท์ไว้ให้บริการ
ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อที่พักและชำระเงินได้ที่ โทรศัพท์ หรือ ก่อนวันเข้าพักอาศัย (ในวันและเวลาราชการ) ทั้งนี้ มีอัตราค่าบำรุงสถานที่สถานีช่างเคี่ยน นักศึกษาคนละ 30 บาท ประชาชนทั่วไปคนละ 60 บาท หมู่คณะละ 600 บาท
และใช่ว่า "ขุนช่างเคี่ยน" จะมีแค่ ดอกนางพญาเสือโคร่ง ให้ชมเท่านั้น ถ้าขับรถเลยไปอีกนิด ก็จะพบกับ "หมู่บ้านชาวม้งบ้านขุนช่างเคี่ยน" ที่สามารถเข้าไปท่องเที่ยวสัมผัสประเพณีและวัฒนธรรมกับพวกเขาได้ อีกทั้งตลอดสองข้างทางยังมี ต้นนางพญาเสือโคร่ง ขนาบข้างให้ชมไปตลอดเส้นทาง
ขุนช่างเคี่ยน
ขุนช่างเคี่ยน
การเดินทาง
ขุนช่างเคี่ยน อยู่ทางทิศเหนือของยอดดอยปุย ห่างจากพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ประมาณ 8 กิโลเมตร ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 32 กิโลเมตร ตามเส้นทางสายเชียงใหม่-พระธาตุดอยสุเทพ ลักษณะถนนจากเมืองเชียงใหม่ ถึงพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ลาดยางเป็นระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร จากนั้นเป็นถนนโรยกรวดขนาดเล็ก จากพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ไปถึงยอดดอยปุยอีกประมาณ 4 กิโลเมตร และเป็นถนนดินที่มีผิวทางค่อนข้างชำรุด จากยอดดอยปุยไปทางหมู่บ้านม้งขุนช่างเคี่ยนอีกประมาณ 4 กิโลเมตร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น